วิธีที่มิจฉาชีพใช้ในการหลอกลวงในปัจจุบันมีมากมาย มีทั้งหลอกให้ลงทุน หลอกให้กดลิงก์เพื่อดูดเงิน และเปลี่ยนเงินที่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัล (คริปโทเคอร์เรนซี) จึงทำให้การติดตามเส้นทางการมีความลำบากมากยิ่งขึ้น และมีอีกหลายอุปสรรคที่ทำให้ยากต่อการติดตามสินทรัพย์คืนแก่ผู้เสียหาย อุปสรรคมีดังต่อไปนี้
1.เมื่อผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้ทำธุรกรรม วินาทีนั้น มิจฉาชีพได้มีการแปลงสกุลเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล และได้มีการถูกโอนย้ายไปในแฟลตฟอร์มสถาบันการเงินต่างๆ ในต่างประเทศ เมื่อนั้นการติดตามสินทรัพย์จะยากมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะอยู่นอกเหนืออำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐในการที่จะบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศเพื่อติดตามนำทรัพย์สินนั้นกลับคืนมา
2.อาชญากรรมส่วนมากจะก่อขึ้นโดยชาวต่างชาติ หรืออยู่ตามชายแดนประเทศไทย จะไม่ได้เกิดขึ้นโดยคนไทยโดยตรง และสถาบันการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ก็มักจะก่อตั้งอยู่ในประเทศเล็กๆ ซึ่งจะไม่สามารถดำเนินการได้โดยเจ้าหน้าที่รัฐไทยเพียงฝ่ายเดียว แต่จะต้องมีการทำงานระหว่างเอกชนและรัฐบาลต่างประเทศ ซึ่งจะต้องพึ่งพาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลของมิจฉาชีพที่จำเป็นในการติดตามทรัพย์สินคืน
3.การทำงานของสกุลเงินดิจิทัล คือการบริการทางการเงินแบบไม่รวมศูนย์ เป็นการรวมแนวคิดที่ให้ผู้ใช้งานบริการทางการเงินมาตรวจสอบธุรกรรมหรือดูแลระบบร่วมกัน ไม่มีตัวกลางและลดความเสี่ยงของระบบที่พึ่งพาแค่ฐานข้อมูลเดียว แต่สกุลเงินนี้ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมโดยรัฐบาลได้ และถึงรัฐบาลจะมีอำนาจมากพอก็ไม่สามารถเอาเงินที่อยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลของมิจฉาชีพได้ เนื่องจากรัฐบาลไม่มี Private key หรือ กุญแจส่วนตัว เพื่อใช้เป็นรหัสผ่านในการเข้ากระเป๋าเงิน
4.รัฐบาลมีความยากในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ หรือศูนย์รับแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ เนื่องจากขั้นตอนในการทำข้อมูลส่งอัยการ ในทางการทูตระหว่างประเทศ และส่งข้อมูลกลับมา อาจจะใช้ระยะเวลานานมากถึง 1 เดือน แต่ในทางกลับกัน บริษัทเอกชนที่มีความสัมพันธ์กับสถาบันการเงินมาอย่างยาวนาน จะมีโอกาสที่ดีกว่าในการเข้าถึงข้อมูลของมิจฉาชีพได้อย่างรวดเร็ว และลดระยะเวลาในการติดตามทรัพย์สินคืน
สรุป
มิจฉาชีพส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ มักจะเริ่มจากการหลอกลวงให้โอนเงินหรือลงทุน ต่อมามีการแปลงเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล โอนย้ายไปในแฟลตฟอร์มสถาบันการเงินต่างๆ ที่อยู่นอกเหนืออำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ที่บริษัทเรา AMLbot thailand เราทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐหลายฝ่าย และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงินต่างประเทศมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในการติดตามเส้นทางการเงินอย่างมาก เรามีความเชื่อ ความตั้งใจในการปกป้องสังคม หากมีข้อบ่งชี้ว่าผู้ต้องสงสัยเป็นมิจฉาชีพ เราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว เพื่อประสิทธิภาพและโอกาสในการติดตามจับคนร้ายได้ดีที่สุด
