มิจฉาชีพแอบอ้างตนเป็นบริษัทชื่อดัง ชักชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี่ อ้างให้ผลตอบแทนสูง เหยื่อหลงเชื่อ เสียทรัพย์หลักแสน! ใช้ใบสำคัญหุ้นปลอม เทคโอเวอร์ปลอม และข้อเสนอซื้อคืนปลอม เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและหลอกให้เหยื่อตายใจ
นายเอ (นามสมมติ) ต้องการการที่จะลงทุนเพื่อหารายได้เพิ่ม จึงได้ทำการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ ซึ่งก็ได้พบกับเว็บไซต์ที่นายบี (นามสมมติ) สร้างขึ้น โดยเนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นข่าวปลอมและได้เผยแพร่บทความเท็จเกี่ยวกับโอกาสในการลงทุนกับบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง (เป็นบริษัทที่มีอยู่จริง)
นายเอที่มีความสนใจในการลงทุนจึงทำการติดต่อนายบี ซึ่งนายบีได้อ้างเหตุผลว่าจะได้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น โดยนายบีได้ชักชวนให้นายเอลงทุนทั้งในรูปแบบเงินสด และลงทุนซื้อหุ้นในรูปแบบเงินดิจิทัลสกุลบิตคอยน์ของบริษัทนี้ด้วย
นายบีบอกให้นายเอฝากเงินเป็นเหรียญคริปโตผ่านทางแพลตฟอร์มของบริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) แห่งหนึ่ง แล้วโอนไปที่กระเป๋าคริปโตที่นายบีอ้างว่า เป็นกระเป๋ากลางเพื่อใช้รับเงินลงทุนของบริษัทตนเองที่จะเอาไปลงทุนในการทำโครงการต่อไป
ซึ่งนายบีบอกนายเอว่าแค่โอนมาก็เท่ากับได้ลงทุนแล้ว และมีการใช้กลยุทธ์เพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยใช้ใบสำคัญหุ้นปลอม หรือเทคโอเวอร์ปลอม และข้อเสนอซื้อคืนปลอม ถ้าหากนายเอต้องการที่จะขายนายบีก็ยินดีที่จะซื้อคืน ทั้งหมดนี้ใช้เพื่อโน้มน้าวให้นายเอตายใจ
โดยนายเอก็ได้หลงเชื่อนายบี และโอนเงินให้นายบีเพื่อลงทุนเป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อนายเอต้องการที่จะเรียกคืนเงินดิจิทัลเป็นเงินสด แต่นายเอไม่สามารถเรียกคืนเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี่ของตนได้หลายครั้ง จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าตนได้ถูกนายบีฉ้อโกงและไม่สามารถติดต่อนายบีได้
ทำให้นายเอรู้ตัวว่าโดนนายบีฉ้อโกงเงินของตนไป จึงได้เข้าแจ้งความว่าตนโดนมิจฉาชีพโกง และยังได้มาปรึกษาเราเพื่อช่วยในการติดตามเงินคืน
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าเงินที่นายเอถูกหลอกไปนั้นได้ถูกแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัล โดยทางเราได้ใช้เครื่องมือ AMLbot Pro ในการติดตามและวิเคราะห์เส้นทางการเงินของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ จะเห็นได้ว่าเงินดิจิทัลเหล่านี้มีการส่งต่อหลายกระเป๋า
จนท้ายที่สุดไปอยู่ที่กระเป๋าดิจิทัลของบริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) บริษัทหนึ่ง ซึ่งได้ทำการตรวจสอบและพบว่ากระเป๋าดิจิทัลใบนั้นเป็นของนายซี ทางเราจึงได้มีการยื่นคำร้องขอคำสั่งศาลให้บริษัทซื้อขายสินทรัพย์นั้นทำการระงับกระเป๋าดิจิทัลของนายซี
และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่านายซีได้ทำการซื้อขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่บนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนคนกลางในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลกับเงินสด และเมื่อทำการขยายผลลึกลงไปอีกทำให้ทราบว่าสกุลเงินดิจิทัลที่นายซีทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายผ่านเว็บไซต์คนกลางนั้น มาจากนายบีซึ่งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
ขณะนี้ได้ยื่นขอคำสั่งศาลเพื่ออายัดสินทรัพย์ดิจิทัลไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการฟ้องร้องเพื่อนำสินทรัพย์คืนแก่ผู้เสียหาย
ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ใช้AMLBot Pro ในการค้นหาเส้นทางการเงินดิจิทัล
ตรวจสอบเส้นทางทั้งหมด จนสามารถระบุตัวคนร้าย
ยื่นฟ้องร้องเพื่อนำทรัพย์สินคืนแก่ผู้เสียหาย
หรืออยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเคสนี้ทั้งหมด เนื่องจากเราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ท่านสามารถเข้ามาสอบถามเราได้ที่สำนักงาน AMLBot Thailand เราสามารถเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดได้ที่สำนักงาน
เป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดนหลอกโดยมิจฉาชีพ ติดต่อเรา
AMLBot Thailand คือมืออาชีพในการติดตามทรัพย์สินพร้อมกับทวงคืนทรัพย์สินที่โดนหลอกโอนเงินจากมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์